หากว่าคุณคิดจะซื้อโซฟาซักตัวหนึ่ง คุณจะรู้ได้อย่างไรว่าโซฟานั้นมีคุณภาพหรือไม่? ภายนอกโซฟาอาจะดูสวยหรู แต่ใครจะรุ้ล่ะว่าข้างในมีอะไรบ้าง อยากให้มองคุณภาพข้างในโซฟามากกว่า ไม่งั้นโซฟาที่รูปร่างเหมือนกันเด๊ะ ๆ ทำไมราคาจึงต่างกันสูงมากนักล่ะ เราไม่รู้ว่าอะไรอยู่ข้างในโซฟานั้นบ้าง เพราะข้างในโซฟานี้เองจะเป็นตัวกำหนดคุณภาพโซฟาว่าดีหรือไม่
โครงไม้,support seating และไส้ในของโซฟา ไม่ได้แค่บอกว่าโซฟาตัวนั้นจะนั่งสบายแค่ไหน แต่มันยังบอกได้อีกว่าโซฟาตัวนั้นจะคงสภาพเดิมแบบที่ซื้อมาไปได้นานแค่ไหน
โครงไม้ของโซฟา
โซฟาจะมีอายุยาวนานหรือไม่ หรือจะยังคงรักษารูปร่างไว้นานแค่ไหน ก็ขึ้นอยู่กับโครงไม้ของโซฟาเป็นหลัก โซฟาที่มีคุณภาพสูงมักจะมีฐานที่มั่นคง แข็งแรง และทนทานอยู่เสมอ
- โครงไม้ของโซฟาที่ดีที่สุดคือ ไม้อบเนื้อแข็ง (kiln dried hardwood) ในการอบไม้ให้แห้งนั้น จะเป็นการกำจัดความชื้นออกไปจากไม้ และยังช่วยในการคงรูปร่าง และทนอยู่ได้เป็นเวลานานในการใช้ความร้อนอบ แต่ถ้าหากเป็นไม้เทียมมันก็จะหดและร้าวตอนเราอบ และถ้าหากเป็นไม้อ่อนมันก็จะงอ และแตกง่ายมาก
- โครงไม้คุณภาพดี จะใส่ใจในเรื่องการต่อไม้เป็นพิเศษ ไม่ว่าจะเป็นการติดกาว,การเข้าเดือย และการขันสกรูน๊อต มันจะช่วยเสริมแรงให้โครงสร้างตรงมุมมีความแข็งแรงมากขึ้น
- พูดง่าย ๆ ก็คือ โครงไม้อัดและ ไม้ particleboard จะมีคุณภาพด้อยกว่า โดยเฉพาะถ้ามันยึดกันด้วยลวดเย็บกระดาษ อย่างไรก็ตาม ถ้าเพิ่มชั้นไม้อัดเข้าไปมันก็จะเพิ่มความแข็งแรงมากขึ้น ก็อย่างที่ว่าแหละ โครงไม้จะสำคัญมากกว่าวัสดุ ถ้าหากว่าคุณเลือกโซฟาที่โครงสร้างทำจากไม้อัด ต้องแน่ใจว่าโครงสร้างนั้นมีอย่างน้อย 11-13 ชั้น
Seating Support
ตัวเสริมที่นั่งก็เป็นส่วนสำคัญอีกอย่างหนึ่ง เพราะมันสามารถบอกได้ถึงคุณภาพของโซฟา ส่วนของที่นั่งนั้นประกอบไปด้วยโครงสร้างและไส้ใน โครงสร้างที่แข็งแรงมักจะช่วยตัวเสริมที่นั่งโซฟาและไส้ในให้ดีขึ้น คุณควรจะทดสอบคุณภาพโซฟาเสมอ โดยการลองนั่งมันก่อนที่คุณคิดจะซื้อ มันไม่ควรยุบมากไปเมื่อเรานั่ง และมันควรจะนุ่มด้วย
- ตัวเสริมที่นั่งแบบ eight-way hand tied springs เป็นวิธีที่ดีที่สุดเลยก็ว่าได้ ผู้เชี่ยวชาญจะเชื่อมสปริงที่อยู่ข้างกันโดยใช้เชือกที่แข็งแรงผูก โดยเริ่มจากด้านหน้าไปด้านหลัง แล้วไปยังด้านข้าง เป็นแนวเส้นทแยงมุมทั้งสองทาง จะทำให้สปริงมีความหนาแน่นและมั่นคงแข็งแรงมากขึ้น
- อีกแบบหนึ่งก็คือ ตัวเสริมที่นั่ง Sinuous spring สปริงรูปตัว S สปริงจะผูกกันด้วยลวดเชื่อมข้ามสปริงอีกด้านหนึ่ง โดยเริ่มจากข้างหน้าโซฟาไปข้างหลังโซฟา วิธีนี้จะทำให้ที่นั่งมีความแข็งแรง และมันอาจจะเหมาะกับโซฟาเบดขนาดยาว (Sleek sofa) หรือ โครงไม้โซฟาขนาดเล็ก เพราะมันใช้พื้นที่น้อย
- แบบที่สามก็คือ ตัวเสริมที่นั่งสานกันเป็นตาข่ายโดยจะผูกกันอย่างแน่นหนาจากที่นั่งไปยังเบาะพนักพิง วัสดุที่ใช้สานนั้นอาจจะทำจากธรรมชาติหรือเส้นใยสังเคราะห์ก็ได้ อย่างไรก็ตาม โซฟาที่มีคุณภาพดีนั้นมันจะใช้กับ Tensioner โดยมันจะยึดกันทำให้โครงสร้างรัดแน่นยิ่งขึ้น วิธีนี้จะมีคุณภาพต่ำกว่าสองตัวแรกที่กล่าวไว้ข้างต้น
ไส้ในเบาะของโซฟา
เราได้พิจารณาโครงไม้, Support seating กันไปแล้ว และก็มาถึงการพิจารณาในส่วนเบาะโซฟา ว่ามีอะไรยัดไส้อยู่ในนั้นบ้าง
- ไส้ในแบบธรรมดาที่ใช้กันทั่วไปคือทำจาก Polyurethane ที่มีความหนาแน่นสูง และแน่นอนว่ายิ่งคุณภาพสูงมากเท่าไหร่ เบาะก็จะยิ่งแน่นและมีความแข็งแรงมากขึ้นเท่านั้น และเบาะที่ยัดไส้ในด้วยโฟมที่ข้างในห่อด้วยวัสดุอ่อนนุ่มหรือฝ้ายจะทำให้เบาะมีความนุ่มกว่า ส่วนเบาะที่ห่อด้วยเส้นใยสังเคราะห์ Dacron จะมีราคาถูกที่สุด แต่ระยะเวลาการใช้จะสั้น
- ต้องมั่นใจว่าโซฟาของคุณทำจากโฟมที่มีความหนาแน่นสูง เพราะโฟมที่มีคุณภาพต่ำจะแตกหักเร็วมาก และยังเป็นสาเหตุที่ทำให้เบาะไปไม่คืนตัว และไม่รักษาทรงผ้าหุ้มเบาะ
- หากคุณต้องการเบาะนั่งนุ่ม ๆให้เลือกเบาะที่ยัดขนเป็ดเป็นไส้ใน เบาะที่มีคุณภาพพรีเมียม ราคาแพง เบาะขนเป็ดนี้ค่าซ่อมราคาสูง จำเป็นต้องหมั่นดูแลทุกวัน
- เบาะที่ยัดไส้ขนเป็ดรวมกับวัสดุอื่น ก็เป็นตัวเลือกที่ดีเหมือนกัน แต่ก็ยังคงมีราคาสูงพอควร อย่าง Blendown pads ที่ทำจากเส้นใยสังเคราะห์ Darcron ห่อด้วยโฟมที่มีความหนาแน่นสูง และเบาะนี้ก็สามารถใช้ร่วมกับสปริงได้เหมือนกัน เบาะจะมีความแข็งแรงมากขึ้นและคืนตัว ทำให้ยังคงรักษารูปร่างโซฟาไว้เหมือนเดิม
ทิ้งท้าย: ให้ใส่ใจคุณภาพมากกว่าราคา เพราะโซฟาที่มีคุณภาพดีจะมีความนุ่มสบายและคงรูปร่างได้เป็นเวลานาน ฉะนั้นหากจะซื้อโซฟาให้เลือกโซฟาที่มีคุณภาพดีที่สุดที่คุณจะสามารถซื้อได้