สิ่งที่ควรรู้ก่อนนำผักผลไม้ใสเก็บไว้ในตู้เย็น
1. ไม่ควรเก็บผักไว้รวมกัน เพราะจะทำให้เกิดการเน่าเสียและเสื่อมสภาพเร็วขึ้น
2. การเก็บผักด้วยวิธีแช่น้ำ ไม่ควรแช่ผักลงในน้ำทั้งตัน เพราะจะทำให้วิตามินละลายน้ำเสียไป
3. การเก็บผักเล็กๆ น้อยๆ ที่ใช้ในครัวและเก็บในตู้เย็นนั้น ควรล้างผักให้สะอาดก่อน
เพราะผักที่ซื้อจากตลาดขายปลีกมักไม่สะอาด หากยังไม่ได้ใช้ทันทีให้ล้างทั้งต้นด้วยน้ำสะอาด
แล้วผึ่งให้สะเด็ดน้ำจริงๆ ค่อยเอาเข้าเก็บ
เอาล่ะค่ะ มาดูกันเลยดีกว่าว่าเราจะเก็บผักและผลไม้ในตู้เย็นอย่างไรให้ดูน่าทานและอยู่นานมากยิ่งขึ้นค่ะ
- แยกกลุ่มผลไม้ให้ชัดเจน
ก่อนจะนำผักสดเข้าตู้เย็นนั้น แนะนำให้แยกกลุ่มผักออกจากกัน โดยจำแนกเป็น 3 ชนิด
คือผักที่เน่าเสียง่ายอย่าง เห็ด, ผักชี, ผักกาดหอม, ถั่วงอก, ถั่วฝักยาว, ผักบุ้ง และชะอม
ต่อมาคือกลุ่มผักที่เก็บได้ในระยะเวลาจำกัด ก็จะมีผักกาด, ผักคะน้า, มะเขือเทศ เป็นต้น
นอกจากนี้ยังมีกลุ่มผักที่เก็บไว้ได้นานกว่าผักอื่นๆ เช่น ฟัก, แฟง, เผือก, มัน และฟักทอง
ซึ่งผักเหล่านี้แม้จะเก็บในตู้เย็นก็ยืดเวลาได้ไม่นานนัก แต่การเก็บที่ดีที่สุดคือใส่ถุงพลาสติกที่สะอาดและแห้ง
จะช่วยเก็บความสดไว้ได้นานขึ้น 5-7 วัน
- เก็บผลไม้ที่สุกง่ายไว้ในถุงสุญญากาศ
ขึ้นชื่อว่าผลไม้ ก็มีให้เลือกมายมายนับไม่ถ้วนเลยใช่ไหมล่ะ แต่ผลไม้ต่างๆ ที่สุกง่าย
อย่าง มะม่วง, แอปเปิ้ล, อะโวคาโด, องุ่น, ลูกแพร รวมไปจนถึงผักอย่างพริกไทยสด และเห็ดทุกชนิด
ถ้าอยากให้คงความสดและเก็บได้นานล่ะก็แนะนำให้ใส่ถุงพลาสติกสูญญากาศ
และพยายามอย่าให้ผิวของผลไม้แต่ละลูกสัมผัสกัน เพียงเท่านี้ก็ช่วยเก็บความสดไว้ได้นานขึ้นแล้ว